หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

หุ่นยนต์มินิ เพื่อนคลายเหงาผู้สูงวัย


ปัจจุบันสังคมคนเมืองจะต้องใช้ชีวิตการทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา จนไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุ โดยคนกลุ่มนี้ต้องการมากที่สุดคือกำลังใจและคนคอยดูแลโดยเฉพาะบุตรหลาน
ในงาน “มหกรรมเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หรือ SITEX 2013” เมื่อวันที่ 14-16 ส.ค. 56 ที่ผ่านมา จัดโดยสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล้วยน้ำไท ต้องสะดุดกับหุ่นยนต์ดินสอรุ่น 2 หรือหุ่นยนต์มินิสัญชาติไทย พัฒนามาจากหุ่นยนต์ดินสอรุ่น 1 ที่ปัจจุบันให้บริการอยู่ในร้าน MK จำนวน 10 สาขา
นายเฉลิมพล ปุณโณทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย โรโบติกส์ จำกัด ผู้ผลิตหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์แห่งแรกของไทย เล่าว่า หุ่นยนต์ดินสอรุ่นที่ 2 ใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น เพิ่มฟังก์ชันให้ตอบสนองต่อกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย เช่น การออกแบบแขนกลให้เลียนแบบกล้ามเนื้อเพื่อเสิร์ฟอาหาร หยิบของ ไหว้ โบกมือ เป็นต้น
โดยแนวคิดเกิดจากตลาดที่ความขาด แคลนพยาบาล ลูกหลานไปทำงานนอกบ้าน และนอกจากพยาบาลไม่พอในประเทศแล้วยังส่งออกไปเมืองนอกด้วย ดังนั้น จึงออกแบบหุ่นยนต์ดินสอรุ่น 2 ให้มีรูปโฉมมินิ เสมือนเด็กที่คอยดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ติดเตียง เป็นอัมพาต และรวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนด้วย
สำหรับการทำงาน จะคอยดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง มีตัวสแกนเสมือนสายตาจับจ้องตลอดเวลา และยังสามารถโทรศัพท์ได้โดยบันทึกรายชื่อผู้ที่ต้องการติดต่อในระบบฐานข้อมูล ตลอดจนมีนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นระบบเรียกให้โทรฯ กลับเพื่อให้แพทย์หรือญาติผู้ป่วยสามารถติดต่อกลับได้ผ่านไอโฟนและแอนดรอยด์
อีกทั้ง ยังจุระบบวัดความดันให้ผู้สูงอายุ เมื่อพบว่าผู้สูงอายุมีความดันสูงก็จะส่งข้อมูลไร้สายไปยังลูกหลานพยาบาลหรือแพทย์ได้ทันที โดยจะเปิดให้ลูกค้าสั่งจองได้ในช่วงปลายปีนี้ในราคาตัวละหลักแสนบาท
“สิ่งที่ผู้สูงอายุประสบปัญหานอกจากจะเรื่องของสุขภาพร่างกาย ความเจ็บป่วยแล้ว สิ่งสำคัญคือ “ความเหงา” ดังนั้น ทีมวิจัยจึงใส่แอพพลิเคชั่น เพลงร่วมสมัย บรรยายธรรมะ รูปเก่า ๆ และวิดีโอการออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเอาเกมฝึกสมองเพื่อชะลอการเป็นอัลไซเมอร์บรรจุเข้า ไปด้วย”
ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเสริม แต่สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการมากที่สุด คือ ความเอาใจใส่จากลูกหลานโดยตรงถือเป็นยาวิเศษที่ดีที่สุด.
อ้างอิงถึงhttp://www.dailynews.co.th/technology/227170

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น