หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

สตรีทวิว - 1001


พวกเราคงรู้จัก “สตรีทวิว” (Street View) ของกูเกิลกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก สตรีทวิวคือการที่บริษัทกูเกิลเอารถ (จำนวนมหาศาล) ติดกล้องคันละหลายตัววิ่งตะลุยถ่ายตามถนนไปรอบโลกแล้วเอารูปที่ถ่ายมาต่อ ๆ กันเป็นทิวทัศน์สองข้างทางประกอบเชื่อมกับแผนที่ออนไลน์กูเกิลแม็พ เวลาค้นหาสถานที่ในแผนที่ก็สามารถเรียก สตรีทวิว มาดูทัศนียภาพรอบ ๆ ของจุดนั้นในแผนที่ มองเห็นรอบตัว 360 องศาได้ สำหรับสถานที่ที่รถเข้าไม่ถึงก็จะใช้สามล้อหรือไปถึงรถลุยหิมะโน่นสำหรับถ่ายทุ่งน้ำแข็ง
เชื่อมากไม่ได้ หากเป็นที่เวิ้งว้างจะเป็นรูปที่ถ่ายไว้หลายปีแล้ว มีเรื่องเล่าจากคนในบริษัทว่าการที่กูเกิลต้องการไปให้ทั่วโลกจึงเรียกว่า “หนเดียวเท่านั้น เราจะไม่ผ่านมาทางนี้อีกแล้ว” โลกมันแคบอยู่ซะเมื่อไหร่เล่า
มีปัญหาเหมือนกันโดยเฉพาะเรื่องความเป็นส่วนตัว เช่น มีรูปคนมานั่งถ่ายทุกข์อยู่หลังรถตัวเองตอนเช้าตรู่ หรือเด็กต่อยกันอยู่ข้างถนน ตอนหลังเขาก็เลยป้ายยาหม่องตามใบหน้า ป้ายโฆษณา หรือป้ายทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น นาน ๆ ก็มีปูดออกมาว่ากูเกิลทำบัดสีนั้นบัดสีนี้เป็นระยะ ก็แก้ไขกันไป แต่ที่มองข้ามไม่ได้คือกูเกิลเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในโลกที่เที่ยวกวาดข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ อย่างเป็นล่ำเป็นสัน แม้แต่ยูทูบที่เราดูวิดีโอกันโครม ๆ ก็โดนกูเกิลสอยไปครองแล้ว
จะครองโลกครองเมืองก็ครองกันด้วยข้อมูลนี่แหละ ไม่ใช่ด้วยงบประมาณหรอกบ้านเรามีรถถ่ายรูปพวกนี้อยู่ฝูงนึง เห็นวิ่งออกมาเป็นขบวนจากโรงแรมเอเชีย แถวราชเทวีในกรุงเทพฯ นี่เอง เรื่องตลกก็มีอยู่เหมือนกัน เช่นมีหมู่บ้านในชนบทของเราไม่ยอมให้รถของสตรีทวิวเข้าไป เพราะนึกว่าเป็นรถของบริษัทมาแอบถ่ายรูปเพื่อสร้างเขื่อนไปโน่นสตรีทวิวเริ่มออกให้บริการเมื่อหกปีที่แล้วตอน พ.ศ. 2550 และพัฒนามาเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีภาพภายในของศูนย์การค้าหรือร้านอาหารกันแล้ว
สตรีทวิวนั้นไม่ได้มีแค่ภาพของสถานที่ต่าง ๆ เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้นแต่เป็นอะไรที่ช่วยชีวิตได้จริง ๆ สำหรับผู้คนทั่วไป ครอบครัวผมเองสามารถยกตัวอย่างสำคัญได้สองเรื่องทีเดียว เรื่องแรกคือตอนที่ลูกสาวจะไปเยี่ยมเพื่อนที่ไปเรียนอยู่ที่อังกฤษ คุณแม่ก็ขยับจัดทัวร์ให้ ท่องเน็ตจองเครื่องบิน โรงแรม รถไฟสารพัด ก็เป็นธรรมดาที่อยากได้ที่พักถูก ๆ
ช่วยได้จริง เดี๋ยวนี้โรงแรมใหญ่ ๆ ก็ถ่ายรูปภายในมาประกอบเข้าไปในสตรีทวิว เวลาดูไปตามถนนสามารถคลิกเข้าไปทางประตูโรงแรมเข้าไปดูภายในล็อบบี้ได้ด้วย
ตอนนี้อาศัยแอพพวกนี้ในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือมือถือสมาร์ทโฟน จนเดี๋ยวนี้แทบจะไม่ได้ใช้โทรศัพท์หรือเอสเอ็มเอส แล้ว หันมาใช้ไลน์ หรือเฟซบุ๊กเมสเสจจิ้ง เพื่อติดต่อ ใครไม่ใช้ ใช้ไม่เป็น
อ้างอิงถึงhttp://www.dailynews.co.th/technology/232500

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น